MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

10 สุดยอดการค้นพบ ทางการแพทย์ปี 2009

วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4171  ประชาชาติธุรกิจ


10 สุดยอดการค้นพบ ทางการแพทย์ปี 2009


คอลัมน์ Health Trend




ปี 2552 ที่กำลังผ่านพ้นไปเป็นอีกปีที่ทั่วโลกตกอยู่ในความกังวลจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายแรกในเม็กซิโกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่าน มา

1 เดือนต่อมาองค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้เป็น "โรคระบาดระดับสูงสุด" ที่สามารถแพร่จากคนสู่คนและแพร่ระบาดข้ามประเทศหรือภูมิภาคได้

อย่าง ไรก็ตามในปี 2009 อีกเช่นกันที่วงการแพทย์มีความก้าวหน้าค้นพบวิธีการรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเอดส์/เอชไอวี ไข้หวัดใหญ่ 2009 มะเร็งต่อมลูกหมาก และกระดูกพรุน รวมทั้งสามารถหาสาเหตุของโรคร้ายแรงที่เป็นภัยคุกคามชีวิตมนุษย์ อาทิ มะเร็งเต้านม การวิจัยสเต็มเซลล์ การคิดค้นวิธีป้องกันอาการออทิสติสม์ โรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ และอัลไซเมอร์ เพื่อนำไปพัฒนาหาวิธีการรักษาในขั้นต่อไป

ในเว็บไซต์ของ "ไทม์ แมกาซีน" จึงได้จัดอันดับ 10 สุดยอดการค้นพบทางการแพทย์ประจำปี 2009 เพื่อย้ำเตือนว่า แม้โรคภัยไข้เจ็บสมัยใหม่จะพัฒนาตัวมากขึ้น แต่การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ก็ยังมีความพยายามจะแก้ปัญหาและค้นหาทางออกให้ จนได้

10 สุดยอดการค้นพบทางการแพทย์ที่ไทม์ แมกาซีน นำมารวบรวมไว้ มีดังต่อไปนี้

1) คำแนะนำให้ตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยการเอกซเรย์หรือแมมโมแกรม

คณะ ทำงานเฉพาะกิจด้านการป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา เพิ่งมีแนวนโยบายใหม่สำหรับการตรวจหามะเร็งเต้านมออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยระบุว่า ให้ผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยการเอกซเรย์หรือแมมโมแกรมเป็นประจำ 2 ปีหน นับเป็นคำแนะนำที่ต่างไปจากเดิมที่ระบุให้ ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไปตรวจแมมโมแกรมเป็นประจำปีละ 1 หน

อีกทั้งยังมีคำแนะนำว่า ให้เลิกตรวจคลำหามะเร็งเต้านมด้วยตนเองด้วย โดยคำแนะนำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐอเมริกา อย่างมากว่า เป็นนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทประกันที่จะสามารถหลีกเลี่ยงการจ่าย เงินค่าตรวจแมมโมแกรมแก่ผู้ซื้อประกันที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี

แต่ใน ที่สุดกฎหมายสาธารณสุขชุดใหม่ของรัฐบาลนายบารัก โอบามา ก็ได้มีการแก้ไขและรับประกันการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยวิธีการใช้แมมโมแกรม และการตรวจโรคเพื่อหาทางป้องกันสำหรับผู้ซื้อประกันทุกวัย

2) การค้นพบวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือโรคเอดส์ชนิดใหม่

ใน เดือนกันยายนหลังจากใช้เงินในการทดสอบและพัฒนาวัคซีนในอาสาสมัคร 16,000 ราย มูลค่า 105 ล้านดอลลาร์ ด้วยการนำวัคซีนเก่า 2 ตัวมาผสมและพัฒนาเป็นวัคซีนป้องกันเอชไอวีตัวใหม่ แม้ผลการทดสอบวัคซีนในคนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ได้เพียง 31% จากจำนวนอาสาสมัครที่รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด แต่การค้นพบครั้งนี้ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังของคนทั้งโลก

3) ยกเลิกข้อห้ามใช้เงินรัฐบาลเพื่อการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็ม เซลล์จากตัวอ่อนที่สร้างใหม่

การ ปลดล็อกกฎซึ่งบรรจุไว้ในกฎหมายตั้งแต่สมัยรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช โดยประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต นายบารัก โอบามา นับเป็นอีกก้าวของการพัฒนาสเต็มเซลล์เพื่อหาวิธีการรักษาโรค อาทิ อัลไซเมอร์ หรือการปลูกถ่ายอวัยวะ แม้ว่าประเด็นเรื่องการใช้ตัวอ่อนมาทำสเต็ม เซลล์จะยังต้องถกเถียงในเรื่องศีลธรรมกันต่อไปก็ตาม

4) การค้นพบวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ชนิดเอ เอช1เอ็น1

ขณะ นี้มีหลายประเทศอยู่ในระหว่างทดลองฉีดให้กับอาสาสมัคร เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันโรค ในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มฉีดวัคซีนนี้ 1 ล้านชุดให้กับกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข ผู้ปกครองของทารกต่ำกว่า 6 เดือน และผู้ที่อยู่ในภาวะของโรคหอบหืดและโรคเบาหวาน

อย่างไรก็ตามจากผล สำรวจล่าสุดในสหรัฐยังพบด้วยว่า มีชาวอเมริกันกว่า 55% ที่ปฏิเสธจะรับการฉีดวัคซีน เนื่องจากยังกังวลถึงความปลอดภัยในการใช้วัคซีนดังกล่าว

5) พบ "ไอพีเอส เซลล์" ใช้แทนสเต็มเซลล์ได้

การ สร้างเซลล์ต้นกำเนิดหรือสเต็มเซลล์จากเซลล์ที่โตเต็มที่แล้วมาเปลี่ยนแปลง โครงสร้างให้เหมือนกับเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนของมนุษย์ที่เรียกว่า "ไอพีเอส เซลล์" หรือ induced Pluripotent Stem Cells โดยการค้นพบอันใหม่นี้เป็นการค้นพบไอพีเอส เซลล์จากเซลล์ผิวหนังของหนู จากห้องทดลองในจีนเมื่อเดือนกรกฎาคม และมีผลยืนยันว่า ไอพีเอส เซลล์สามารถใช้แทนสเต็ม เซลล์จากตัวอ่อน เพื่อรักษาอาการของโรคบางชนิดได้จริง

6) การเจาะเลือดหามะเร็งไม่ได้ช่วยค้นพบโรคได้เร็วขึ้น

การ ค้นพบว่าการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีที่เรียกว่า "พีเอสเอ" หรือ Prostate-Specific Antigen ซึ่งเป็นการตรวจหามะเร็งจากการเจาะเลือดอาจไม่ได้บ่งชี้ถึงการหาทางรักษาโรค ได้เร็วขึ้นอีกต่อไป

เมื่อสถาบันมะเร็งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา ศึกษาในอาสาสมัครชาย 76,000 ราย แล้วแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยพีเอสเอกับอีกครึ่งหนึ่งไม่ ได้ตรวจด้วยพีเอสพี เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปีกลับพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากและเคยผ่านการตรวจด้วยพีเอส เอแล้ว 50 ราย ขณะที่ผู้ที่เสียชีวิตด้วยมะเร็งต่อมลูกหมากอีก 44 ราย เป็นผู้ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจด้วยพีเอสเอมาก่อน

7) ค้นพบต้นเหตุทำให้เป็นออทิสติสม์

การ ศึกษาพบว่าโครโมโซมลำดับที่ 5 ที่บ่งชี้ว่ามีส่วนสำคัญถึง 15% ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการออทิสติสม์ในเด็กอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีเด็ก 1 ใน 100 คน มีอาการออทิสติสม์และยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร แต่การค้นพบว่าโครโมโซมลำดับที่ 5 มีผลทำให้เกิดอาการออทิสติสม์ครั้งนี้เป็นการค้นพบที่สำคัญสำหรับการหาวิธี ป้องกันโรคได้

8) พบยาใหม่รักษาโรคกระดูกพรุน

ยารักษาโรค กระดูกพรุนตัวใหม่จะทำหน้าที่ไปสกัดกั้นการทำลายเซลล์กระดูกในร่างกาย แต่ขณะนี้ตัวยาดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐ หรือเอฟดีเอ แต่มีการคาดการณ์ว่า หากยาดังกล่าวสามารถวางจำหน่ายในท้องตลาดได้ น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่ายารักษาโรคกระดูกพรุนที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน เช่น โฟซาแม็กซ์ โบนิวา และรีคลาสท์

9) พบยีนทำให้เป็นอัลไซเมอร์

มี การค้นพบยีน 3 ตัวที่คาดว่ามีผลทำให้เซลล์ประสาททำงานไม่เป็นปกติ และทำให้เกิดความปรวนแปรในระบบความจำ เป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ โดยการค้นพบนี้ทำให้แพทย์มีความหวังว่าจะสามารถต่อยอดและพัฒนาวิธีการรักษา อัลไซเมอร์ต่อไปในอนาคต

10) Brown Fat ทำให้เกิดโรคอ้วนในผู้ใหญ่

การ ค้นพบว่าไขมันสีน้ำตาล หรือ Brown Fat ซึ่งปกติจะทำหน้าที่สลายพลังงานแทนการสะสมพลังงานนั้น อาจทำให้เกิดโรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ได้ แต่ในปัจจุบันคนที่มีอายุมากขึ้น การทำงานของไขมันสีน้ำตาลกลับทำได้ลดลง และไปสะสมอยู่ที่ลำคอมากขึ้น ซึ่งมีผลให้คนที่เคยรูปร่างผอมบางอาจมีคอโตกว่าคนที่อ้วนกลมกว่า โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น จะพบว่ามีเซลล์ไขมันสีน้ำตาลมากกว่าคนในพื้นที่อื่นมาก


หน้า 33
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02spo04311252&sectionid=0219&day=2009-12-31

--
twitter
mondayblog /senateblog
tuesdayblog/designblog
wednesdayblog/senateblog
thursdayblog/blog1951/sunnews9
fridayblog/9fridayblog
saturdayblog /kratongblog
sundayblog /chun1951
http://www.sahavicha.com
http://teetwo.blogspot.com/2008/04/1_28.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น